text19

     การผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง เป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน จำเป็นต้องใช้เทคนิคทางศัลยกรรม หลายอย่างและใช้เนื้อเยื่อจากส่วนต่างๆ หลายส่วนมาประกอบเข้าด้วยกันจนได้อวัยวะที่มีรูปร่างสวยงามเหมาะสมและมีความลึกเพียงพอ ในคนไข้แต่ละคนมีลักษณะทางกายวิภาคที่แตกต่างกัน ทั้งในส่วนของเนื้อเยื่อที่จะนำมาประกอบกันและส่วนที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือดเส้นประสาท ซึ่งมีผลต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ในบางรายมีความเสี่ยงทางสุขภาพ เช่นสูบบุหรี่มาก, เป็นโรคเบาหวาน หรือโรคของเส้นเลือด ก็จะทำให้หลังการผ่าตัดมีผลมากกว่าในคนอื่นๆ ในที่นี้จะกล่าวถึงภาวะแทรกซ้อนที่พบได้ทั้งหมด รวมทั้งสาเหตุและการแก้ไข

titleeffect1

สาเหตุที่ช่องคลอดตื้นเกิดได้จากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  1. มีการเปิดโพรงช่องคลอดเทียมตื้นเกินไป โดยทั่วไปการเปิดช่องคลอดเทียม จำเป็นต้องอาศัยการเรียนรู้และพัฒนาเทคนิคอย่างเหมาะสม การผ่าตัดสร้างช่องว่างที่จะทำเป็นช่องคลอดนั้นจะต้องเปิดผ่านตำแหน่งทางกายวิภาคดังนี้ คือ แรกสุดช่องคลอดจะถูกสร้าง
  • ไปที่ตำแหน่งระหว่างต่อมลูกหมากและทวารหนัก
  • ช่องว่างจะเข้าไปที่ตำแหน่งระหว่างกระเพาะปัสสาวะและทวารหนัก
  • เจาะเข้าไปที่ตำแหน่งนอกเยื่อบุช่องท้อง
  • เข้าสู่ตำแหน่งหลังต่อเยื่อบุช่องท้อง โดยตำแหน่งนี้จะอยู่เลยตำแหน่งของรอบพับของทวารหนักขึ้นไปแล้ว

      การที่จะได้ความลึกมากๆ จะต้องผ่านเข้าไปใช้ช่องว่างที่ 3 หรือ 4 แต่อย่างไรก็ตามในบางรายอาจมีปัญหาทางกายวิภาคที่มีความเสี่ยงทำให้แพทย์ผ่าตัดไม่สามารถเลาะโพรงได้ลึกพอทำให้ช่องว่างตื้นกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม การเจาะช่องคลอดที่ ลึกมากบางครั้งอาจทำให้ทะลุช่องท้องได้ถ้าไม่ได้รับการตรวจพบตำแหน่งแรกอาจทำให้มีปัญหาโดยภายหลังได้

  1. มีผิวหนังของอัณฑะ,อวัยวะเพศ และกราฟ ยาวพอที่จะใช้วางบนโพรงที่สร้างไว้ได้เพียงพอหรือไม่ ถึงแม้ว่าจะมีการสร้างโพรงช่องว่างไว้ลึกเพียงพอ แต่ถ้าไม่มีผิวหนังเพียงพอ ช่องคลอดที่เกิดขึ้นใหม่ก็จะได้ความลึกเท่ากับเนื้อเยื่อที่มีอยู่
     
  2. ลักษณะทางกายภาพในบางครั้ง กายวิภาคของคนในบางรายอาจมีปัญหาต้องการเจาะเชิงกรานในตำแหน่งที่ลึกมากโดยทั่วไป การจะเจาะเปิดช่องคลอดได้ลึกมากจะต้องสามารถเปิดช่องว่างได้ถึงตำแหน่งหลังเยื่อบุช่องท้อง แต่ในบางรายอาจมีลักษณะทางกายวิภาคที่ทำให้การเปิดช่องว่างนี้ ทำได้ยาก เช่นในบางรายที่มีกระดูกเชิงกรานแคบมากหรือผนังเยื่อบุช่องท้องต่ำมากอาจทำให้การผ่าตัด ในตำแหน่งที่ลึกๆ ทำได้ยากมองเห็นไม่ชัด ถ้าทำช่องลึกมากอาจทะลุผนังช่องท้องได้
     
  3. ในบางกรณีระหว่างผ่าตัด อาจมีปัญหาบางอย่างเช่น มีเลือดออกมาก ไม่สามารถหยุดเลือดได้ดี หรือมีการทะลุเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ , เยื่อบุช่องท้องหรือทวารหนักทำให้ต้องแก้ไขปัญหาเหล่านั้น การผ่าตัดเพิ่มความลึกของช่องคลอดอาจทำได้ไม่ดีเท่ากับกรณีที่ไม่มีปัญหาทำให้จำเป็นต้องลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาโดยไม่เลาะโพรงช่องคลอดต่อในส่วนที่ลึกมากๆ
     
  4. การที่มีผิวหนังจากอวัยวะเพศหรือหนังหุ้มอัณฑะตาย เนื่องมาจากการกระทบกระเทือนของเส้นเลือดหรือส่วนปลายของเนื้อเยื่อนั้นๆมีเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอจึงมีผลทำให้ผิวหนังส่วนปลายหลุดลอกไป
    ผิวหนังส่วนที่ปกติจะหดตัวเข้าหากันหรือหดตัวเข้าหาผิวหนังที่เป็นกราฟทำให้ช่องคลอดตื้นขึ้น
     
  5. ผิวหนังส่วนที่เป็นกราฟที่ได้รับการปลูกถ่ายด้านในของช่องคลอดไม่ติดกับเนื้อเยื่อด้านล่าง
    ทำให้ผิวหนังส่วนนั้นไม่มีเลือดมาเลี้ยงได้ภายหลัง ทำให้มีการหลุดลอกของผิวหนังออกไปหลังจากแผลหายแล้ว การที่กราฟไม่ติดนั้นเนื่องมาจากเทคนิคการผ่าตัด หรืออาจเกิดจากการที่มีเลือดออกมากในโพรงช่องคลอดทำให้กราฟไม่แน่นติดกับเนื้อเยื่อของร่างกายจึงไม่ติดกับผนังด้านในของช่องคลอดและหลุดลอกออกมาในภายหลัง
     
  6. การดูแลหลังผ่าตัดโดยการขยายช่องคลอดไม่เพียงพอ เป็นที่ทราบกันแล้วว่าเทคนิคที่เป็นมาตรฐานในปัจจุบันมักจะต้องมีการเพิ่มความยาวของช่องคลอดโดยการปลูกถ่ายผิวหนังหรือเรียกว่าการทำกราฟ โดยทั่วไปผิวหนังที่ปลูกถ่ายในช่องคลอดจะมีการหดตัวลงหลังจากแผลหายแล้วดังนั้นหลังการผ่าตัดแล้วต้องมีการขยายช่องคลอดอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาหนึ่งจึงจะสามารถรักษาความลึกอยู่ได้
tomy
titlesub1

ปัญหาเรื่องช่องคลอดตื้นแบ่งได้เป็น 2 อย่างได้แก่

1.1 ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพ บางอย่างไม่สามารถแก้ไขได้เช่นกระดูกเชิงกรานแคบมากทำให้การเปิดช่องว่างทำได้ไม่ดี โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ลึกเข้าไปในร่างกายมากๆ แพทย์ผ่าตัดจะมองเห็นไม่ชัดทำให้ไม่สามารถสร้างช่องว่างได้ดีข้อจำกัดทางกายภาพนี้ อาจแก้ไขได้ค่อนข้างยาว

1.2  ปัญหาที่เกิดจากเทคนิคการผ่าตัด เช่น มีการติดเชื้อ,มีเนื้อตาย เกิดการตื้นของช่องคลอดภายหลังกรณีเช่นนี้ มีการแก้ไขทำกันได้หลายอย่างในบางคนพยายามแก้ไขทันทีโดยการใช้ผิวหนังที่อื่น เช่นต้นขาหรือขาหนีบ เข้าไปวางใน ตำแหน่งที่มีเนื้อตายหรือกราฟที่ตาย อย่างไรก็ตามการแก้ไข โดยทันทีหลังจากที่มีปัญหา มักได้ผลไม่ดี เพราะเนื้อเยื่อบริเวณนี้ มักมีการติดเชื้อทำให้ ผิวหนังนำมาปลูกถ่ายใหม่ไม่ติด และการผ่าตัดในช่วงนี้จะทำได้ยาก ผิวหนังที่นำมาปลูกถ่ายอาจนำมาปลูกได้น้อย  ดังนั้น การแก้ไขทันทีมักไม่ได้ประโยชน์ในการเพิ่มความลึกในระยะยาว โดยทั่วไปปัญหานี้แนะนำให้รอให้แผลหายเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเริ่มทำการแก้ไข โดยทั่วไปแนะนำให้รอประมาณ 4-6 เดือนไม่ ควรรีบทำเร็วกว่านี้ เพราะในขณะที่แผลยังหายไม่สนิท การผ่าตัดทำได้ยากอาจทำให้มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สูง

titleeffect2

    โดยทั่วไป แพทย์ผ่าตัดมักจะทราบว่ามีการทะลุบางส่วนของท่อปัสสาวะเพราะมักจะมีเลือดออกมาก ในบริเวณนั้นและอาจมีน้ำปัสสาวะไหลออกมา ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นตามมา ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่แรกคือ อาจมีการรั่วของปัสสาวะ แยกออกเป็น 2 ทาง อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากโดยทั่วไปการที่มีปัญหาเรื่องการปัสสาวะมักจะเกิดจากการที่ท่อปัสสาวะและเนื้อเยื่อรอบๆ มีการบวมหลังการผ่าตัดซึ่งมักจะหายได้เอง

titleeffect3

    ในขณะที่เปิดช่องว่างเพื่อสร้างช่องคลอดเทียมอาจมีการทะลุเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ โดยทั่วไป จะรู้ว่ามีการทะลุระหว่างการผ่าตัดก่อนที่จะเข้ากระเพาะปัสสาวะจะมีเลือดออกมาก และหลังจากมีการทะลุแล้วจะมีปัสสาวะไหลออกมาอาจมองเห็นบอลลูนของสายสวนปัสสาวะได้ โดยทั่วไปปัญหานี้มักรุ้ได้ทันทีขณะที่ทำการผ่าตัด และสามารถเย็บซ่อมปิดรูรั่วได้ แต่อาจต้องใช้สายสวนปัสสาวะนานหน่อย

pic32
titleeffect4

    ปัญหาการปัสสาวะไม่ออกหลังการผ่าตัดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยทั่วไปแล้ว เทคนิคของการเปิดปลายท่อปัสสาวะมีหลายแบบ แตกต่างกัน ขึ้นกับความคุ้นเคยของศัลยแพทย์แต่ละท่าน สาเหตุของการปัสสาวะไม่ได้หลังการผ่าตัดมีได้ดังนี้

  1. การที่มีเลือดออกใต้เยื่อบุท่อปัสสาวะบางคนซึ่งไม่สามารถทำให้เลือดหยุดได้ดีอาจมีเลือดออกรอบๆ ท่อปัสสาวะแล้วก้อนเลือดกดรูเปิดทำให้ รูเปิดแคบลงโดยทั่วไปปัญหานี้มักหายได้เร็วโดย ร่างกายจะมีขบวนการกำจัดเลือดเก่าๆ ที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกาย ไม่ควรทำการเจาะเลือดออกเพราะจะทำให้เลือดยิ่งออกมากขึ้น

    ในช่วงที่ก้อนเลือดยังมีขนาดใหญ่อาจต้องใส่สายปัสสาวะไว้ก่อน โดยทั่วไปอาจต้องใส่สายสวนปัสสาวะไว้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ จนกว่าก้อนเลือดจะยุบลง แล้วจึงลองเอาสายสวนปัสสาวะออก แล้วลองปัสสาวะดู
     
  2. การบวมของเนื้อเยื่อรอบๆ หลังการผ่าตัดจะมีการบวมของอวัยวะเพศทั้งหมด ตั้งแต่แคมนอกแคมใน และปากทางช่องคลอด ส่วนต่างๆที่บวมจะกดทางออกของท่อปัสสาวะถ้าให้ท่อปัสสาวะตีบลง การแก้ไขของวิธีนี้ทำโดยใส่สายสวนปัสสาวะไว้ต่ออีกระยะหนึ่งโดยทั่วไปประมาณ 1-2 อาทิตย์
     
  3. การที่มีแผลรอบรูเปิดท่อปัสสาวะแล้วเกิดพังพืดหดรัด หลังจากแผลหายแล้ว การแก้ไขสำหรับปัญหานี้คือถ้ารูเปิดมีขนาดกว้างพออาจทำการใส่สายสวนคาไว้นานหน่อย ประมาณ 2-3 อาทิตย์ สายสวนควรมีขนาดใหญ่เพื่อให้แผลเป็นที่อยู่รอบๆ ไม่หดรัดจนเล็กเกินไป ถ้ามีปัญหาไม่ควรเอาสายปัสสาวะออกเร็วเกินไปเพราะถ้าแผลยังไม่หายจะมีพังพืดหดรัด รูเปิดเล็กลงได้อีกหลังจากเอาสายสวนออกโดยทั่วไป แนะนำให้ใส่สายสวนค้างไว้อีก 2 สัปดาห์ เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตามในกรณีที่เกิดแผลหดรัดมากจนมีรูเปิดเล็กมากและไม่สามารถแก้ไขด้วยการใส่สายสวนใส่เป็นเวลานาน อาจต้องทำการผ่าตัด เพื่อขยายหรือ ย้ายรูเปิดท่อปัสสาวะให้มีขนาดใหญ่ และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม การผ่าตัดแก้ไขปัญหานี้ค่อนข้างยาก และต้องอาศัยเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสมและควรทำการผ่าตัด ในเวลาที่เหมาะสม ต้องรอให้แผลผ่าตัดหายหมดก่อนจึงจะทำได้ดี
titleeffect5

    เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดได้บ่อยโดยทั่วไปมักเกิดขึ้นในขณะที่ทำการผ่าตัดการทะลุขณะที่ขยายช่องคลอดเกิดได้น้อย ในขณะผ่าตัดถ้าพบมีการทะลุสู่ลำไส้ใหญ่รูรั่วมักมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถผ่าตัดแก้ไขได้ เลยทันที แต่อาจต้องงดอาหารและน้ำเป็นเวลานานหน่อย และเริ่มขยายช่องคลอด ช้ากว่าปกติ ในกรณีที่พบทะลุแล้วไม่ได้เย็บแผลปิด จะเกิดการพบถ่ายอุจจาระผ่านออกมาทางช่องคลอดที่สร้างขึ้นใหม่ ทำให้แผลติดเชื้อได้ กรณีนี้อาจต้องทำการผ่าตัดปิดรูเปิดแล้วระบายอุจจาระออกทางหน้าท้องระยะหนึ่งก่อน รอจนแผลหายดีแล้วค่อยผ่าตัด ยกลำไส้ที่เปิดทางหน้าท้องลง

    กรณีสุดท้ายคือมีการ รั่วของอุจจาระออกจากช่องคลอด ถ้าหลังจากแผลหายไปแล้วระยะหนึ่ง สาเหตุคือการเกิดรูรั่วภายหลัง หลังจากการผ่าตัดไประยะหนึ่งมักเกิดจากการใช้จี้ไฟฟ้า ระหว่างผ่าตัดเพื่อทำการหยุดเลือดทำให้เนื้อเยื่อผนังทวารหนักบางส่วนตาย และหลุดลอกออกทางทวารหนักภายหลัง ถ้าการรั่วเกิดในตำแหน่งที่ช่องคลอดมีความหนาเพียงพอ รูเปิดนี้ ก็จะสามารถปิดได้เอง แต่ถ้ารูปิดอยู่ในตำแหน่งที่เป็นกราฟหรือผนังช่องคลอดที่บางมากจะเกิดการติดเชื้อและทะลุ เขาในช่องคลอดได้ทำให้เกิดปัญหาถ่ายอุจจาระออกทางช่องคลอด หลังจากเปิดแผลและขยายช่องคลอดในระยะหนึ่งในกรณีนี้การเกิดขึ้นอยู่กับ ความรุนแรงของการติดเชื้อและการปนเปื้อนอุจจาระ ถ้ามีการปนเปื้อนมากๆและมีการติดเชื้อชัดเจนอาจต้อง เปิดลำไส้ที่หน้าท้องให้มีการถ่ายทางหน้าท้อง จนแผลหายดีจึงค่อยเพิ่มซ่อมปิดรูรั่วแต่ถ้าไม่มีการติดเชื้อ อาจทำการผ่าตัดแก้ไขปิดรูรั่วในภายหลังโดยไม่ต้องเปิดทางระบายอุจจาระทางหน้าท้องก็ได้ในบางราย

titleeffect6

    เกิดขึ้นได้ในขณะที่เปิดโพรงช่องว่าง เพื่อทำช่องคลอดใกล้ทางทวารหนักมากเกินไปทำให้มีการเลาะโพรงช่องว่างเข้าไปในกล้ามเนื้อหูรูดบางส่วน แทนที่จะผ่านกล้ามเนื้อผนังกระบังลมส่วนล่างอย่างเดียว ถ้าศัลยแพทย์ พบกล้ามเนื้อฉีกขาดในขณะที่ทำผ่าตัดอาจทำการเย็บแก้ไขได้บางส่วนแต่อย่างไรก็ตาม มักจะไม่สามารถเย็บได้ทั้งหมด เพราะต้องทำการขยายช่องคลอดขณะที่ทำการเปิดช่องคลอดในทำให้กล้ามเนื้อที่เย็บไว้ ฉีกขาดได้อีก

    กรณีกล้ามเนื้อมีการฉีกขาดมาก มักทำให้คนไข้ไม่สามารถกลั้นอุจจาระได้ดีในขณะแรกหลังจากผ่าตัดเวลาถ่ายอุจจาระจะต้องเข้าห้องน้ำโดยทันที การแก้ไขปัญหานี้ทำโดย การฝึกกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักบ่อยๆ โดยการขมิบเพื่อให้กล้ามเนื้อที่เหลืออยู่แข็งแรงและทำงานได้ดีขึ้น โดย ทั่วๆไปกล้ามเนื้อหูรูดจะมี 2 มัด คือกล้ามเนื้อด้านนอกและกล้ามเนื้อด้านใน โดยแต่ละมัดจะมีขนาดใหญ่มากโดยทั่วไปการเลาะช่องคลอดเทียม จะไม่ทำให้กล้ามเนื้อ หูรูดฉีกขาดทั้งหมด โดยทั่วไปจะมีการฉีกขาดไม่เกิน 50% ดังนั้นกล้ามเนื้อที่เหลืออยู่สามารถ ทำงานทดแทนได้เพียงพอโดยการฝึกขมิบ สามารถทำให้การกลั้นอุจจาระเป็นปกติภายในเวลา 2 อาทิตย์

titleeffect7
  • ต่อมลูกหมากเป็นต่อมที่สร้างน้ำเลี้ยง อสุจิ ตำแหน่งอยู่บริเวณท่อปัสสาวะส่วนต้นโดยทั่วไป ในคนที่ตัดอัณฑะไปแล้วหรือได้รับ ฮอร์โมนเพศหญิงเป็นระยะเวลานานๆ ต่อมลูกหมากมักมีขนาดเล็กมากจนมองเห็นได้ยากระหว่างผ่าตัด ในกรณีทั่วไปการเปิดช่องคลอดใหม่มักผ่านใต้ต่อต่อมลูกหมาก แต่บางครั้งต่อมลูกหมากอาจมองเห็นได้ไม่ชัดเจน ทำให้ทะลุเข้าไปได้โดยทั่วไป การฉีกขาดของต่อมลูกหมากไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหารุนแรง แต่อาจทำให้มีปัญหาเลือดออกมากในระหว่างผ่าตัด ทำให้เสียเลือดมากทั้งในระหว่างผ่าตัดและหลังการผ่าตัด การแก้ไขทำโดยเย็บปิดเนื้อเยื่อเพื่อหยุดเลือด
     
  • ในกรณีฉีดขาดของต่อมลูกหมากเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง (5 - 6 เดือน) หลังจากแผลในช่องคลอดหายหมดแล้วในบางคนอาจมีปัญหา การอุดตันของท่อของต่อมลูกหมากทำให้เกิดถุงน้ำใสๆใต้รูเปิดของท่อปัสสาวะหรืออยู่ผนังช่องคลอดใหม่ ก้อนจะมีขนาดเล็กแล้วค่อยๆโตขึ้นเรื่อยๆจนมีขนาดใหญ่มาก ก้อนที่มีขนาดใหญ่นี้เกิดจากถุงน้ำซึ่งเป็นน้ำอสุจิจากต่อมลูกหมากสีขาวใสโดยถุงน้ำจะขึ้นติดกับท่อปัสสาวะ
    วิธีการรักษาทำได้โดยการผ่าตัดระบายน้ำในถุงออกภายนอก ถ้าไม่หายวิธีการแก้ไขที่ได้ผลดีที่สุด คือ การผ่าตัดเอาต่อมลูกหมากส่วนนั้นออก
titleeffect8

    สามารถเกิดได้บ่อยมากขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันคนไข้มักต้องการความลึก มากกว่าสมัยก่อนทำให้มีการใช้เทคนิคการต่อกราฟมากขึ้น ขณะที่เปิดโพรงช่องคลอดจึงต้องทำให้ลึกขึ้นปัญหาอาจเกิดขณะเจาะเพื่อสร้างโพรงช่องคลอดใต้ต่อเยื่อบุช่องท้องหรือหลังช่องท้องหรืออาจเกิดขึ้นในขณะที่ทำการม้วนผิวหนังและกราฟเข้าไปทำช่องคลอดในตอนสุดท้ายก่อนที่จะปิดแผลในกรณีแรกถ้าเกิดขึ้นทันที แพทย์ผู้ผ่าตัดมักจะมองเห็นได้ถ้าผ่าตัดในท่าที่มองเห็นได้ชัดเจนการแก้ไข สามารถเย็บปิดเยื่อบุช่องคลอดได้ โดยใช้ไหมละลายแล้วทำการม้วนผิวหนังและกราฟเข้าไปปิดแผลได้

    ในกรณีที่ 2 คือ การเกิดการทะลุเข้าช่องท้องขณะที่ทำการม้วนผิวหนังและกราฟเข้าไปเพื่อเป็นผนังช่องคลอดพร้อมกับปิดผ้าก๊อส เข้าไปในช่องคลอดใหม่กรณีเช่นนี้มักเกิดขึ้นจากการที่เลาะโพรงที่อยู่ติดถนนผนังช่องคลอดหรือด้านหลังของช่องท้อง ไม่กว้างหรือลึก เพียงพอกับผิวหนังและกราฟที่ม้วนเข้าไปทำให้เย็บบุช่องท้องมีความตึงมากขณะทำการปิดแผลเกิดการฉีดขาดได้ อย่างไรก็ตามกรณีนี้มีโอกาสเกิดได้น้อยมาก ปัญหาที่เกิดหลังจากมีช่องว่างที่ทะลุไปช่องท้อง จะทำให้มีปัญหาหลังการผ่าตัดโดยมีอาการ ไข้ ปวดท้อง อาการท้องผูกหรือท้องเสียและอาจมีอาการท้องอืดมาก

  • การตรวจพบหลังจากเปิดแผลแล้วจะมีน้ำใสๆ ไหลออกจากช่องคลอด น้ำใสๆจะเป็นน้ำที่เกิดจากช่องท้องในบางกรณีถึงมี การอักเสบหรือมีเนื้อตายของผิวหนังที่เอาไปทำช่องคลอดนั้น อาจมีของเหลวสีขาวขุ่นออกมาแทน หลังจากการขยายช่องคลอดทุกครั้ง น้ำใสๆหรือขุ่นๆ ก็จะออกทุกครั้งหลังจากมีการขยายช่องคลอดอาการปวดแน่นท้องจะดีขึ้นเนื่องจากมีการระบายของเหลวหรือแบคทีเรียที่ปนเปื้อนออกจากช่องท้อง การตรวจที่ชัดเจนว่ามีการทะลุเข้าช่องท้อง ต้องใช้การตรวจผ่านช่องคลอดพบร่องรอยต่อกับช่องท้องที่ปลายสุดของช่องคลอดเทียม
     
  • วิธีการรักษาในกรณีที่ 2 นี้ การเข้าไปเย็บปิดจากช่องคลอดทำได้ยากเป็นวิธีที่ไม่แนะนำเพราะอย่างไรก็ตาม การติดเชื้อบางส่วน และโดยทั่วไปแล้วเนื่องจากเทคนิคการผ่าตัดทำได้ยากจึงไม่สามารถเย็บปิดให้ทั้งหมด โดยทั่วไป แนะนำจะให้งดอาหารและดูอาการก่อนงดการสวนล้างช่องคลอดและการขยายช่องคลอดจนกว่าจะตรวจพบว่าช่องดังกล่าวปิดแล้ว และให้ยาแก้อักเสบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ นอนในท่าศรีษะสูงเพื่อให้การระบายน้ำเหลืองในช่องท้องระบายผ่านช่องที่ทะลุ โดยทั่วไป ถ้าลำไส้ทำงานและอาการดีขึ้น จะมีไข้ลดและอาการปวดท้องลดลง อาการจะดีขึ้นใน 2-3 วัน อย่างไรก็ตาม การขยายช่องคลอดและสวนล้างแนะนำให้ทำการตรวจช่องคลอด ว่ารูทะลุได้ปิดแล้วจึงเริ่มการสวนล้างได้ (ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์) ถ้าทำการรักษาดังกล่าวแล้วอาการไม่ดีขึ้นคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องผ่าตัดทางหน้าท้อง
titleeffect9

    จุดมุ่งหมายหลักของการแปลงเพศคือ ความกว้างและความลึกที่เพียงพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ การที่ช่องคลอดแคบอาจเกิดได้ในตำแหน่งต่างๆกัน ได้แก่ อาจเกิดที่ส่วนทางเข้าหรือเกิดการแคบที่ตำแหน่งที่เลยปากทางเข้าไปแล้ว โดยทั่วไปการแคบตั้งแต่ทางเข้ามักเกิดจากแผลภายนอกมีปัญหาเนื้อตายมากหรือกราฟเริ่มต้นจากภายนอกในกรณีที่คนไข้มีอวัยวะเพศสั้นมากแต่การตีบที่ตรงปากทางเข้าช่องคลอดไปแล้วเกิดได้จากสาเหตุต่างๆจึงจะได้กล่าวต่อไป

สาเหตุที่ทำให้เกิดการตีบแคบ :

  1. เชิงกรานแคบมาก -โดยทั่วไปปัญหานี้พบได้แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ช่องคลอดแคบมากโดยทั่วไปกระดูกเชิงกรานอาจทำให้ไม่สามารถทำช่องคลอดให้กว้างมากๆได้แต่ก็ไม่ทำให้แคบมากจนร่วม เพศไม่ได้ โดยทั่วไปเชิงกรานที่แคบอาจทำให้การผ่าตัดยากแต่เวลาใช้งานจริงมักไม่ค่อยมีปัญหา ถ้าขนาดอวัยวะเพศชายปกติ จะมีปัญหาเฉพาะกรณีที่อวัยวะเพศมีขนาดใหญ่ผิดปกติจริงๆ
     
  2. การทำช่องไม่กว้างพอ - เกิดจากการที่ขณะผ่าตัดช่องทำที่ว่างช่องคลอดทำให้ไม่กว้างทำให้ไม่มีพื้นที่ที่จะวางผิวหนังที่เป็นผนังช่องคลอดได้เพียงพอ
     
  3. ผิวหนังและกราฟมีขนาดแคบ - บางครั้งช่องว่างที่เตรียมไว้อาจจะกว้างพอแต่บางกรณีคนไข้ที่มีอวัยวะเพศเล็กหรือได้กราฟที่ไม่กว้างพอมักจะทำให้ช่องคลอดแคบลง
     
  4. มีเนื้อตายหรือกราฟไม่ติด - ถ้าตำแหน่งทางเข้าของช่องคลอดมีเนื้อตายบริเวณกว้างหรือกราฟบริเวณนั้นไม่ติดเป็นบริเวณที่กว้างมาก เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งกราฟที่ไม่ติดและเนื้อตายจะหลุดออกและแผลบริเวณนั้นๆจะหดตัวเข้ามาหากันทำให้ช่องคลอดแคบลง
     
  5. เกิดพังพืดหดรัดในช่องคลอดใหม่ – หลังผ่าตัด แผลรอบๆ ช่องคลอดใหม่จะเกิดพังพืดโดยรอบทำให้ช่องคลอดแคบลง การที่ช่องคลอดแคบลงโดยพังพืดสาเหตุหลักเกิดจากการขยายช่องคลอดไม่เหมาะสม เช่น อาจทำน้อยเกินไป หรือใช้อุปกรณ์ขยายช่องคลอดขนาดเล็กตลอดไม่ได้เปลี่ยนเป็นขนาดใหญ่ โดยทั่วๆไปสาเหตุนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ช่องคลอดใหม่มีการตีบแคบ
     
  6. รอยต่อของเนื้อเยื่อที่ต่างกัน – ปัญหานี้มักเกิดในคนที่ผ่าตัดทำช่องคลอดโดยลำไส้ใหญ่บางคนอาจมีการตีบที่รอยต่อระหว่างลำไส้ใหญ่และผิวหนัง
titlesub1

ก.

ข.

ค.

ง.

กรณีที่การแคบเกิดที่ปากช่องคลอดคงต้องผ่าตัดเติมเนื้อเยื่อให้กว้างโดยทั่วไปอาจใช้เนื้อเยื่อข้างเคียงหรือใช้เนื้อเยื่อจากบริเวณอื่นเอามาเติมเพื่อให้ทางเข้ากว้างขึ้น

ใช้โมล์ขยายช่องคลอด โดยทั่วไปถ้าช่องคลอดแคบแนะนำใช้การแก้ไขโดยขยายช่องคลอดก่อนโดยต้องเตรียมโมเล็กที่มีขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่โดยอาจมีการใส่ขนาดให้แตกต่างกันเล็กน้อยเช่น 25mm ,27mm,29mm,31mm โดยเทคนิคการขยายทำได้โดยทำตามหัวข้อ การขยายช่องคลอดใช้เจล หล่อลื่นมากหน่อยโดยทาทั่วบนโมล์และใช้ไซริงค์ฉีดยาฉีดเข้าไปในช่องคลอดเพื่อให้มีการหล่อลื่นทั้งช่องคลอด เริ่มขยายโดยใช้โมล์ขนาดที่เคยทำแล้วไม่ตึงมากประมาณ 5 นาที แล้วเปลี่ยนให้ใช้โมล์ที่ใหญ่ขึ้นและสอดใส่ยาก ค่อยๆดันโมล์เข้าไปจนสุดผนังช่องคลอดทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม. ทำแบบนี้ไว้วันละ 2 ครั้ง จนรู้สึกว่าขนาดใหญ่ที่ใช้เริ่มไม่เจ็บแล้วประมาณ 7-10 วัน จึงเปลี่ยนเป็นขนาดใหญ่ขึ้นจนถึงขนาดที่ต้องการ

การผ่าตัดขยายช่องคลอด กรณีที่มีการตีบแคบมากจนไม่สามารถขยายได้เลยมักจำเป็นต้องผ่าตัดขยาย การขยายช่องคลอดไม่ได้ทำเพียงเปิดช่องให้กว้างขึ้นเท่านั้นแต่การแก้ไขหลักคือการผิวหนังเข้ามาเติมในช่องคลอด โดยทั่วไปมักใช้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นเข้ามาปิดโดยเทคนิคทางศัลยกรรมตกแต่งแต่ถ้าเนื้อเยื่อ ไม่เพียงพออาจต้องใช้ผิวหนังบริเวณอื่นมาเติมได้แก่ ผิวหนังบริเวณหน้าท้องหรือขาหนีบ

ในกรณีที่ตีบแคบมากจนแก้ไขด้วยวิธีการขยายแล้วไม่ดีขึ้นแสดงว่าเนื้อเยื่อที่ขาดหายไปในช่องคลอดมีมากกรณีนี้มักพบร่วมกับช่องคลอดที่ตื้นมากด้วย การแก้ไขที่แก้ปัญหาได้เปิดเสร็จคือการใช้ลำไส้ใหญ่เข้ามาต่อในตำแหน่งที่อยู่ก่อนถึงตำแหน่งที่ตีบแคบและตัดเอาส่วนที่ตีบแคบทิ้งไป

titleeffect10

    เนื่องจากการผ่าตัดแปลงเพศในปัจจุบันเป็นการผ่าตัดที่ซับซ้อน มีการใช้เนื้อเยื่อบริเวณต่างๆ เข้ามาใช้ทำช่องคลอด หรืออาจมีการใช้ผ้าพันแผลใส่ในช่องคลอดเพื่อหยุดเลือดแน่นเกินไปทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังน้อย เนื้อเยื่อรอบๆช่องคลอดอาจมีบางส่วนมีเลือดมาเลี้ยงไม่พอ ทำให้ตายและหลุดลอกออกไป หลังผ่าตัดในอาทิตย์ที่ 1 อาจยังดูไม่ออกจะมีส่วนใดที่หลุดไปบ้าง แต่ประมาณวันที่ 10-14 จะมีเนื้อเยื่อหลุดลอกให้เห็นได้ชัดเจนได้โดยเฉพาะตำแหน่งของปากช่องคลอดใต้รูปเปิดของท่อปัสสาวะและด้านล่างของแคมใน

    การแก้ไขโดยทั่วไป เนื้อเยื่อที่หลุดลอกจะค่อยๆหลุดช้าๆจนหมดในเวลา 2 - 3 อาทิตย์ การแก้ไขมักไม่ต้องเย็บแผลหรือตัดเนื้อเยื่อออกเพราะเนื้อเยื่อสามารถหลุดไปได้เอง ยกเว้นในกรณีที่เนื้อเยื่อตายมีขนาดใหญ่มากจำเป็นต้องตัดออกบางส่วนโดยทั่วไปแผลที่เนื้อตายหลุดจะสามารถหายได้เองและปิดจนเป็นแผลปกติ ภายใน 3 อาทิตย์ ระหว่างนี้ให้ทำแผลสวนล้างปกติ อาจต้องสวนล้างมากกว่าปกติเพื่อที่จะให้เนื้อตายหลุดออกเร็วขึ้นในบางรายแนะนำให้ใช้ชุดสวนล้างเพราะสะดวกและทำความสะอาดได้มากกว่า

titleeffect11

    แผลผ่าตัดแคมนอก มักมีความตึงในบางตำแหน่งโดยเฉพาะส่วนล่างสุดใกล้กับทวารหนักปัญหาเรื่องแผลแยกบริเวณนี้เป็นปัญหาที่เกิดได้บ่อย แต่หลังจากแผลหายแล้ว แผลเป็นมักจะเห็นได้ไม่ชัดมากเพราะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำมีคนสังเกตุเห็นได้น้อย

    การแก้ไขโดยทั่วไปให้ทำแผลทุกวันเช็ดด้วยเบตาดีนแผลที่แยกสามารถหายได้เองในที่สุดภายในเวลา 2-3 อาทิตย์ แต่ถ้ารอยแยกมีขนาดใหญ่มากอาจต้องทำการเย็บแผลบางส่วนให้ปิดและตัดเนื้อตามบริเวณใต้แผลออก ระหว่างที่แผลยังไม่หายควรงดเว้นการเดินทางระยะไกลๆ เพราะทำให้แผลตึงขึ้นและแยกได้ใหม่

pic33
titleeffect12

    โดยทั่วไปปัญหาการหลุดลอกของ คลิตอริส มักพบได้บ้างแต่ไม่มากถ้าใช้เทคนิคการผ่าตัดที่มีการเก็บเส้นเลือดและเส้นประสาทใช้ การหลุดลอกบางส่วนมักเกิดจากการเกิดเนื้อตายในบริเวณที่แผลมีความตึงมากหรือถูกกดทับมาก เนื่องจากตำแหน่ง คลิตอริสและแคมในเป็นตำแหน่งที่มีเลือดออกบ้างในระยะหลังผ่าตัดการปิดแผลมักมีการกดบริเวณนี้เพื่อให้เลือดหยุด การกดบางครั้งถ้ามากเกินไปก็อาจทำให้เนื้อตายบางส่วนได้แต่ถ้าไม่กดบริเวณนี้ ก็จะเสียเลือดมาก

     การแก้ไข มักไม่ต้องผ่าตัดเพียงแต่รอให้ เนื้อเยื่อโดยรอบหลุดออกไปโดยทั่วไป เนื้อเยื่อที่เหลืออยู่จะมีขนาดเล็กลงบ้างแต่ถ้ามีขนาดและรูปร่างที่ยังเห็นเป็นคลิตอริสอยู่และมีความรู้สึกเมื่อรับการสัมผัส

หน้าถัดไป

next2

** ขอสงวนสิทธิ์ข้อมูลและรูปภาพในเวบไซค์นี้ ห้ามลอกเลียนและเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต

Copyright 2005 Sexchange Clinic All Rights Reserved. Designed by Unseen